วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เพลิงบทที่ 31



เพลิงบทที่ 31




[Top Talk]

            ร่างบางทุกสลัดทุกเครื่องอาภรณ์ ร่างกายถูกปลุกเร้าอย่างง่ายดายเมื่อใครอีกคนสัมผัสมัน

            โลกันตร์รู้ว่าเขาถูกปลุกเร้าได้ง่ายตรงไหน เพราะอีกฝ่ายมักทำแบบนี้เสมอเมื่อถึงเวลาขึ้นเตียง หากแต่สิ่งที่แตกต่างจากปกติที่ร่างบางอาจไม่รับรู้ คือดวงตาสีดำทมิฬที่จ้องมองร่างที่บิดกายอย่างทรมาน

            เขาจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายไปไหนอีกแล้ว

            แม้แต่ความตาย ก็จะไม่มีวันให้พรากเอาสิ่งสำคัญไปอีก
!

            “อ๊า
!” เสียงร้องด้วยความเจ็บดังขึ้น เมื่อเรียวนิ้วของคนด้านบนเตียงกำลังสอดเข้ามายังช่องทาง ร่างบางกัดปากแน่นเมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกที่ไม่ได้มีมานาน แต่มันเจ็บกว่าครั้งที่ผ่านมามาก อาจเป็นเพราะเขาต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน ตอนนี้ช่องทางด้านหลังถึงได้แน่นจนแทบขยับนิ้วไม่ได้

            โลกันตร์ส่งเสียงไม่พอใจเล็กน้อยที่ช่องทางแน่น ยิ่งเห็นคนใต้ร่างกำลังร้องไห้เพราะความอึดอัดยิ่งรู้สึกอารมณ์ไม่ดี

            หากนี้จะเป็นความผิดใคร ก็คงเป็นความผิดของคนใต้ร่าง ที่มันดันทำให้เขาไม่สามารถอดทนได้

            พรึ่บ
!

            “เอ๊ะ
!? เดี๋ยว! อย่าเพิ่ง!” ร่างบางเบิกตากว้างขึ้นมาทันทีเมื่อนิ้วเรียวถูกเอาออกจากช่องทาง ก่อนจะอ้าปากร้องครางแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าแก่นกายขนาดใหญ่กำลังจะเข้ามา “อ๊า!!!

            ข้าวสวยร้องลั่น มือบางจิกผ้าปูที่นอน น้ำตาหยดใสๆไหลลงมาอีกครั้ง ก่อนที่ร้องสะอื้นจะถูกกลืนกินไปด้วยเสียงครางแทน

            “อะ อ๊ะ
!” แรงขยับจากร่างสูงส่งผลให้ร่างกายของคนใต้ร่างขยับตาม ความแสบร้อนและเจ็บปวดที่ช่องทางถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ใบหน้าสวยเบ้ปากด้วยความทรมาน ในขณะที่ดวงตาสีดำกลับมองคนใต้ร่างและถาโถมทุกอย่างใส่ลงไป “อ๊า! อย่า! เจ็บ...ฮึก!

            เสียงร้องไห้ดังขึ้น ยามเมื่อดวงตาสีดำจ้องมองคนที่คำนึงหามาโดยตลอด สติทุกอย่างก็ถูกลบเลือนไปในทันที เขาไม่อยากปล่อยไปอีก ไม่อยากจะต้องทุกข์ทรมานอีก ในเมื่อมันเลือกที่จะไม่ไปจากเขาตั้งแต่แรก ก็ต้องรับผลจากการที่เขาต้องทุกข์มาโดยตลอดซะเถอะ

            เมื่อความคิดนั้นผุดขึ้นมา ดวงตาสีดำก็พลันประกายตาขึ้นมา กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วห้อง เขารู้ดีว่าต่อจากนี้คงโดนอีกฝ่ายบ่น แต่เขาเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน

            “ทำไม
!..อ๊ะ! อย่า! อึก!...ปล่อยก่อน!

            ในที่สุดร่างบางก็ร้องขอ เมื่อเห็นทีว่าขนาดนี้ตัวเองจะไม่ไหวแทน ยิ่งเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ร่างกายก็ไม่ได้สมบูรณ์ดีหรอกนะ แต่ยังไม่ทันได้ต่อต้านหรือต่อกรกับร่างสูง เสียงทุ้มก็ดังขึ้น พร้อมๆกับดวงตาสีดำสนิทที่ทอดมองลงมาอย่างจริงจัง

            “กูจะไม่ปล่อยคนที่กูรักไปอีกแล้ว
!

            กึก
!

            ตึกตักๆๆ

            สิ้นสุดสุระเสียงก้องกังวาน ดวงตาก็เบิกกว้างมองคนด้านบนอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อกี้...เขา ได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?

            “อ๊า
!” แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยหรือถามอะไรต่อ ข้าวสวยก็ต้องร้องครางออกมาทันทีเมื่อสัมผัสรุนแรงถาโถมเข้ามา

            หลังจากนั้นคนถูกกระทำก็ต้องยอมรับชะตากรรมตลอดเวลาห้าเดือนที่ผ่านมา เพราะดูเหมือนว่าคนรักของเขาจะอัดอั้นมานานเกินทน

            แต่แบบนี้...ก็ไม่ไหวนะ
!

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561

เพลิงบนที่ 22



เพลิงบทที่ 22




"กันตร์! เดี๋ยวๆ จะทำอะไร อ๊ะ!" ผมร้องลั่นยามเมื่อดวงตาสีดำวาวกดต่ำลงมาพร้อมๆกับเอื้อมมือมาถกเสื้อของผมขึ้นจนตกใจโพล่งออกมาอย่างเสียงดัง


สรุปคือมึงไปโด๊ปยามาใช่ไหม?


"เดี๋ยวก่อนสามี มึงน่าจะรู้นะว่าตอนนี้ร่างกายกูไม่พร้อม" ผมคว้าเข้าที่ข้อมืออีกฝ่ายทันทีเมื่อเขาทำท่าจะไปต่อโดยไม่พูดอะไรมาก แต่ก็นั่นแหละ โลกันตร์ยอมฟังที่ผมที่ไหน เพราะนอกจากไม่ฟังอีกฝ่ายยังขยับกายเข้ามาใกล้จนผมเซลงไปนั่งบนโซฟาเลย


สะเทือนก้นมากบอกเลย...


"กัน- อึก!" ว่าจะเปิดปากด่าสักหน่อย แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ริมฝีปากก็ถูกประกบลงมาอย่างรวดเร็ว ผมเบลออยู่หลายนาทีที่เดียว แต่ก็ยอมตอบรับจูบจากอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย


ให้มันได้อย่างนี้สิ ทำไมผมต้องยอมมันอีกแล้วเนี่ย!?


"อ๊ะ!" ผมร้องอย่างตกใจยามเมื่อกางเกงถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว แอบตกใจเหมือนกันที่อีกฝ่ายรีบร้อนขนาดนี้ แถมยังไม่ทันจะได้ร้องห้ามอะไร ใบหน้าของโลกันตร์ก็โน้มลงมาก่อนที่ริมฝีปากหนาจะขบกัดลงบนยอดอกให้ได้อายเล่น


ไอ้...! บ้านี่!


เสียงครางดังขึ้นไม่หยุดเมื่อความเจ็บปวดส่งเข้ามา โลกันตร์ไม่เว้นที่ให้ผมตกใจแล้ว เพราะเขาส่งนิ้วเข้ามาจนผมต้องเบิกตากว้างแล้วดิ้นพล่าน


"อ๊า!"


เจ็บ...คำเดียวจริงๆ เพราะเขาไม่ได้ใช้อะไรเป็นตัวช่วย บอกเลย นี่สดๆ ใส่เข้ามาสดๆจนน้ำตาเล็ดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ยิ่งยังไม่หายดีจากครั้งที่แล้วด้วย ความเจ็บก็ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ


ผมคว้าเข้าที่เสื้อของอีกฝ่ายพลางกำแน่น หลับตาเพราะนิ้วของอีกฝ่ายเริ่มขยับ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงนิ้วเดียว แต่ก็ทำให้ผมทรมานได้มากมายเหมือนใส่เข้ามาสามนิ้ว


"อย่า อะ! เจ็บ..." ผมว่า ดวงตาสีดำคมก็จ้องมองมาอย่างไม่สนใจ เขาแทบจะไม่ต้องคิดอะไรเลยเพราะร่างสูงเพิ่มนิ้วเข้ามาอีกหนึ่ง


แค่หนึ่งแรกก็จะเป็นลม นี่นิ้วที่สอง...ไอ้ห่า ต้องสตรองขนาดไหนวะ!


ผมตวัดสายตามองอีกฝ่ายด้วยความทรมาน ยิ่งถูกนิ้วของอีกฝ่ายแกล้งเอาๆแบบนี้ยิ่งอึดอัด รู้สึกปวดหนึบตรงแก่นกายจนไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วด้วย โลกันตร์เองก็ยังคงหน้าตาย เขาขยับนิ้วเร็วขึ้นจนผมต้องครางออกมาแทบจะไม่มีวันหยุด


อึดอัด...


"ทำ...ไม..."


ผมเอ่ยออกมาอย่าไม่เข้าใจ เขาไม่คิดจะสงสารผมบ้างหรือไง?


ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ว่าผมต้องการสื่ออะไร โลกันตร์เพียงแค่จ้องมองมาก่อนจะเพิ่มนิ้วเข้ามาแบบไม่พูดอะไรอีกครั้ง และนั้นก็ยิ่งทำให้ผมกำเสื้ออีกฝ่ายแน่น


มันลำบากนะ แถมเป็นบนโซฟาด้วย ปกติทำแต่บนเตียง นี่อีกฝ่ายนึกยังไงถึงได้มาทำตรงนี้เนี่ย อีกอย่าง โซฟาแม่งก็ทำความสะอาดยากด้วย...


"อะ..อ๊ะ.." ผมครางด้วยความเจ็บปวดยามที่นิ้วทั้งสามขยับเป็นจังหวะ ช่องทางสีหวานเองก็ดูเหมือนจะตอบรับโลกันตร์ดีเสียเลยเกิน รู้หรือเปล่าว่าผมจะขาดใจตายอยู่แล้วเนี่ย! "อื้อ! อย่า...ขยับ"


"ไม่"


"อ๊า...!" เสียงครางดังขึ้นเมื่อร่างสูงถอนนิ้วออก ก่อนจะสอดเข้ามาจนสุดภายในไม่กี่วินาที ผมมองเขาด้วยสายตาหาเรื่อง อีกฝ่ายคิดจะทรมานผมหรือไง? หรือแค่อยากแกล้ง?


หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง...


"อ๊า! กันตร์...พอแล้ว!" ผมว่าพลางดันแผ่นอกของเขาออก หวังแค่ให้เขาหยุดการกระทำที่ทรมานแบบนี้สักที แต่ดูเหมือนเขาจะไม่แคร์ เพราะนอกจากจะไม่หยุด ร่างสูงยังโน้มใบหน้าลงมาพร้อมขบกัดแสดงร่องรอยความเป็นเจ้าของที่บริเวณคอ ร่องรอยที่แลกมาด้วยเลือดของผม...


มืออีกข้างก็ไม่ว่างเว้น เขาใช้มือสัมผัสไม่ทั่วทุกส่วนก่อนจะมาหยุดที่ยอดอกของผม และนั้นคือนรก...


"อะ!..อ๊ะ" ผมครางเสียงแหบเมื่อมือหนาบีบเน้นยอดอกจนมันขึ้นเป็นรอยสีแดงๆ ยิ่งดวงตาสีดำกำลังจ้องมองมาด้วยความเรียบนิ่ง หากแต่กลับร้อนรุมอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้ โลกันตร์กำลังจ้องมาทางผม จ้องชนิดที่ว่าแก้มทั้งสองข้างเริ่มมีปฏิกิริยากับการจ้องมองของอีกฝ่าย


ทั้งๆที่ผมพยายามจะเมินมันแท้ๆ ทุกๆครั้งที่เรามีอะไรกัน โลกันตร์มักมองผมแบบนี้เสมอ สายตาที่บอกว่า 'เขากำลังจะกินผม' ในตอนที่มีอะไรกัน!


"อือ!" ผมกัดปากแน่น ยิ่งมือหนาบีบเค้นยอดอกอย่างรุนแรงยิ่งรู้สึกทรมาน อยากจะปลดปล่อย แต่ดูท่าทางแล้วอีกฝ่ายคงไม่ยอมแน่ๆ


ผมตวัดสายตาไปมองอีกฝ่าย คนที่กำลังแกล้งผมอยู่โดนการเอาแต่ขยับนิ้วไปมาจนนึกโกรธ


โกรธตัวเองที่อยากได้มากกว่านิ้วนะน่ะ...


"กันตร์..." ผมเอ่ยเสียงหวาน ร่างสูงไม่ได้มีปฏิกิริยากับการเรียกแบบนี้ตามที่ผมคำนวณไว้ แต่ใครจะสนล่ะ อีกฝ่ายกำลังทำให้ผมคลั่งตายเพราะไม่ได้ปลดปล่อยนะ หัดคิดถึงหัวอกของคนที่ถูกกระทำบ้างสิ


ผมก้มหน้าลงมองมือของอีกฝ่ายที่ขยับเข้าออกไปหยุด ก่อนจะหน้าบูดพร้อมๆกับทำในสิ่งที่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าทำ


ผมเอื้อมมือไปจับแก่นกายใต้กางเกงของร่างสูง สิ่งที่ไม่อาจจะกะขนาดไหน สัมผัสที่ทำให้ผมแก้มร้อนผ่าวยามเมื่อมันเองก็กำลังแข็งตัวขึ้นเหมือนกัน ผมเงยหน้ามองอีกฝ่าย ช้อนตาขึ้นแบบที่ไม่รู้ตัว ในขณะที่ดวงตาสีดำเองก็จับจ้องมองมาให้ได้อายเล่น


อ่า เขาแกล้งผมสินะ หึ แข็งขนาดนี้คิดว่าจะอดทนไปได้ถึงเมื่อไหร่กัน


ผมว่าในใจก่อนจะเอามืออีกข้างคว้าเข้าที่คออีกฝ่าย พลางโน้มให้ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะประกบจูบอย่างรุนแรงอย่างที่อีกฝ่ายเองก็ไม่คิดจะห้าม


ลิ้นร้อนแลกเปลี่ยนความคลั่งของกันและกัน โลกันตร์ทั้งดูดดึงและไม่คิดจะยอมแพ้ เขาเองก็คงเป็นอีกคนหนึ่งที่พร้อมจะขยำผมทุกเมื่อหากมีโอกาส


ผมตอบรับอีกฝ่ายไปอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน ยิ่งลิ้นเกี่ยวตวัดกันไปมายิ่งทำให้เข้าใจถึงอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้นเรื่อยๆจนทำได้แต่ยั่วอีกฝ่ายไปมา


มือของผมเองก็ลูบไปตามเนื้อผ้าราคาแพงที่ข้างในของร่างสูงเริ่มแข็งตัวอีกครั้ง โลกันตร์มองมาทางผม สายตาพร้อมที่จะซัดทุกอย่างที่ขว้างหน้าทิ้งไปให้หมด ซึ่งก็เป็นสัญญาณที่บอกเอาไว้ได้ดีว่า...เขาเองก็ทนไม่ไหว


เห็นไหมล่ะ ยังไงอีกฝ่ายก็ไม่มีทางต้านทานแรงอารมณ์ไหวหรอก ถึงอยากจะแกล้งผมก็เถอะ


ผมถอดจูบออกอย่างรวดเร็วเมื่อลมหายใจเริ่มถูกช่วงชิง และในนาทีต่อมาโลกันตร์ก็ไม่รอช้า เข้าผลักผมลงบนเตียงก่อนจะตามมาคร่อมทับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงมา พร้อมๆกับแก่นกายขนาดใหญ่ที่สอดเข้ามาภายในช่องทางจนต้องร้องครางสุดเสียง


"อ๊า!" เขา...ถอดกางเกงตั้งแต่เมื่อไหร่!?


ผมไม่มีเวลาให้คิดนาน โลกันตร์เองก็เช่นกัน เขากระแทกแก่นกายเข้ามาจนสุดแบบที่ไม่ต้องรอให้ผมคุ้นชินแต่อย่างใด ผมกัดริมฝีปากตัวเองจนห่อเลือดพลางส่งสายตาตัดพ้อต่อว่าไปให้คนด้านบน ทว่านอกจากจะไม่รู้สึกผิดแล้วยังกระแทกแก่นกายเข้ามาจนเจ็บปวดไปทั่วช่องทาง


"อื้อ! กันตร์...!" ผมร้องเสียงแหบ โลกันตร์ยังไม่ไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขาสตรองขนาดที่ว่ามีเท่าไหร่ใส่มาให้หมดจนตัวผมโยกไปโยกมาอย่างห้ามไม่อยู่


กายแกร่งดุดันเข้ามาภายใน ช่องทางด้านหลังเองก็สัมผัสได้ถึงความร้อนระอุที่กระแทกมาเน้นๆจนได้แต่กัดปากแน่นขึ้น ถ้าหากพรุ่งนี้ปากผมช้ำคงจะไม่ต้องบอกนะว่าเพราะอะไร...


"นี่นาย อ๊ะ...! ไป...อึก โด็ปยามารึไง!?" ในที่สุดผมก็เอ่ยขึ้น ร่างสูงเองก็ยังไม่ลดแรงลด โลกันตร์ขยับกายเข้ามาแน่นๆจนความรู้สึกทรมานเริ่มแปรเปลี่ยนมาเป็นเสียวซ่าน แรงกระแทกกระทั้นของอีกฝ่ายทำให้หัวเบลอไปหมด


"อื้ม! อึก! อ๊ะ!" ผมร้องอย่างเสียวซ่าน ยิ่งสบตาเข้ากับอีกฝ่าย ความรู้สึกก็ยิ่งทวีคูณ สายตาของอีกฝ่ายกำลังทำให้ผมบ้าตาย ให้ตายเถอะ! "หว่า!"


ผมร้องขึ้นยามเมื่อถูกร่างสูงคว้าเอวแล้วจับนั่งลงบนแก่นกาย มันยิ่งทำให้ของๆเขาเข้าไปลึกกว่าเดิม


ผมหลับตาไปข้างหนึ่งพลางแสดงสีหน้าเจ็บปวด พร้อมๆกับแก้มที่ขึ้นสีเสียจนคล้ายกุ้ง


พรึ่บ!


"อ๊า! อย่า! ตรงนั้นมัน...!" ผมร้องลั่นพลางคว้าคออีกฝ่ายแน่นเมื่อแก่นกายกระแทกเข้ามาโดนจุดสงวนจนได้แต่เบ้หน้าอย่างทรมาน


ผมเงยหน้ามองโลกันตร์หวังให้เข้าช่วย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางช่วย เพราะดวงตาของอีกฝ่ายยังคงมองการกระทำของผมทุกอย่างเสียจนไม่กล้าเอ่ยปากขอ


ราวกับเขากำลังรอ...


"กันตร์..." ผมกำมือแน่นยามเมื่อดวงตาสีดำตั้งหน้าตั้งตารอ ดวงตาสั่นมัวด้วยแรงอารมณ์ ในขณะที่ริมฝีปากก็ขยับเป็นคำพูดด้วยประโยคน่าอาย "ขออีก"


ผมว่าพลางมองอีกฝ่ายอย่างอ้อนวอน ซึ่งแก่นกายที่เริ่มขยายใหญ่นั้นเป็นคำตอบได้ดี ร่างสูงยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะขยับเข้ามากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่ดูเอาเปรียบ


"ขยับสิ..."


ทำไมผมต้อง...อื้อ!


ผมหลับตาแน่นด้วยความอาย ชาตินี้ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แถมไอ้หน้าตาแบบนั้นมันอะไร อีกฝ่ายกำลังแกล้งผมอยู่จริงๆสินะ!


ผมข่มความอายทั้งหมดที่มี พยายามขยับอย่างที่ไม่รู้ว่าทำแบบนี้ถูกรึเปล่า แต่ยิ่งทำให้รู้สึกถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่แรงขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่


ผมกำลังมีความสุข และดื่มด่ำกับความดิบเถื่อนนี้...


"อ๊ะ! ฮ๊า!" ผมครางขึ้นอีกครั้งเมื่อสะโพกถูกกดลงอย่างรุนแรง เสื้อที่สวมอยู่ดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับร่างสูงเลย จนผมเริ่มแอบหมั่นไส้


น่าแปลกที่วันนี้ไม่ได้เจ็บเท่าครั้งก่อน อาจจะเพราะโดนขยายช่องหน้านานมากพอให้แก่นกายเข้ามาสะดวกๆ แต่ถึงยังไงแรงกระแทกที่ร่างสูงส่งมาก็ยังเป็นปัญหาสำหรับผมอยู่ดี!


"อื้ม! ฮ๊า แรง..." ผมว่าก่อนจะหอบหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ตอนนี้สมองขาวโพลนไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองทำเรื่องน่าอายอะไรลงไปบ้าง แต่แม้ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง และโดนบอกอะไรมาด้วย


"ถ้าวันหลังพูดจายั่วแบบนี้อีก"


"อ๊า! อะ!"


"มันจะไม่จบแค่นี้หรอกนะ ข้าวสวย..."


"อ๊า!"


น้ำตาของผมตีตื้นขึ้นอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะกระพริบตาให้มันหยดลงมา พลางส่ายหน้าอย่างเสียวซ่าน และวันนั้นเป็นวันที่ผมได้รับรู้อีกอย่างหนึ่ง


คำว่า 'โต้รุ่ง' มันน่ากลัวมากครับ...


วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เพลิงบทที่ 16



เพลิงบทที่ 16


"มึงไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนั้น ข้าวสวย"


"อื้ม!" ผมสะดุ้งสุดตัว มองคนที่ก้มลงมาบดจูบแบบไม่ทันตั้งตัวก่อนจะดิ้นไปมาราวกับโดนไฟลวก "อึก! อื้ม อืมมมม!" ลิ้นร้อนกวาดต้อนเข้ามาในโพร่งปากทันทีเมื่อผมเผลอเปิดริมฝีปากออกมา ก่อนที่จะถูกไล่ต้อนให้จนมุม โลกันตร์ก็บดขยี้ริมฝีปากราวกับกำลังกลั้นแกล้ง พร้อมทั้งขบกัดลงมาเต็มแรงจนสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบนริมฝีปากที่มาพร้อมกลิ่นเลือดที่ลอยคลุ้ง รสจูบที่โคตรไร้ความเมตตา เหมือนกับจูบแรกที่เขาเคยได้ทำกับผมเอาไว้ ทั้งเจ็บและแสบจนปวดปากไปหมด "ฮ่า!"


ผมผละออกห่างแล้วโกยอากาศเข้าปอดทันที ร่องรอยของเลือดที่ไหลจากริมฝีปากทำเอาขำออกมาไม่เป็น เจ็บทั้งปาก เจ็บทั้งใจที่มันไม่เคยมองผมในแง่ดีสักครั้งเดียว จนเริ่มน้อยใจขึ้นมา...


ผมหันไปมองโลกันตร์ด้วยสายตาเจ็บปวด และน้อยครั้งมากที่ผมจะทำแบบนี้ ฟันผมกัดกันแน่น ก่อนจะเอ่ยวาจาแสนน้อยใจที่มาพร้อมกับความประชดออกไป


"ถ้ามึงจะคิดว่ากูสำส่อนขนาดนี้"


"..."


"ฆ่ากูให้ตายเลยไม่ง่ายกว่าเหรอวะ!"


"ฆ่ามึงได้ กูฆ่าไปนานแล้วข้าวสวย"


"อื้ม!" ผมเบิกตากว้างอีกครั้งเมื่อริมฝีปากถูกปิดก่อนจะได้ประมวลผลจากคำพูดเมื่อกี้ มันให้ความหมายได้สั้นๆเลยว่าโลกันตร์ฆ่าผมไม่ได้ แต่เพราะอะไรกันละ!? "อึก!" โลกันตร์ไม่รอให้ผมคิดนาน อีกฝ่ายบดจูบลงมาอย่างไร้ความปราณี พร้อมกับมืออีกข้างที่ลูบไล้ไปตามเรือนร่างของผมแต่ละส่วนๆ


ระดับความเร่าร้อนเริ่มทวีคูนเป็นความรุนแรงและป่าเถื่อน โลกันตร์ไม่ได้สนใจร่างกายของผมเลย เพราะอีกฝ่ายลูบไล้ร่างกายอย่างรุนแรงจนขึ้นสีไปทั้งตัว


"อ้า!" โลกันตร์ผละออกห่างจากริมฝีปากของผม โดยสายตาก็กดลงต่ำมองเรือนร่างที่ขึ้นสีแดงตามการกระทำของอีกฝ่าย ผมได้แต่มองเขาด้วยความสับสนปะปนว้าวุ่นใจ คือมันอึดอัดมาจากไหนวะถึงได้ทำรุนแรงขนาดนี้ คนนะไม่ใช่ตุ๊กตาหน้ารถ!


พรึ่บ!


"อ๊า!" ผมร้องลั่นเมื่อมือหนาตรงเข้ามาสัมผัสส่วนที่ร้อนรุ่ม ผมปรือตามองก็พบดวงตาที่เป็นประกายกับบางสิ่งบางอย่าง และยิ่งเขาขยับมันขึ้นลงผมจึงรู้สึกได้ "อ๊ะ! อย่าทำ...อย่างนั้น!"


โลกันตร์กำลังทำให้ผมยอมจำนน ในแบบที่ขัดขืนเขาไม่ได้!


"ฮึก! อืม อ้า..." ผมเม้นปากแน่นก่อนจะหลับตาลงเพราะสัมผัสที่รุนแรงของอีกฝ่าย โลกันตร์แตะต้องส่วนนั้นราวกับเป็นยางยืด ทั้งดึง บีบ ลูบ จนสติที่เคยมีของผมกระเจิงไปหมด


อยากได้มากกว่า...


เป็นความคิดที่ผมไม่เคยอยากจะนึกถึงมันเลยสักนิด! ทั้งๆที่โดนทำแบบนี้ แต่กลับห้ามความรู้สึกไม่ได้จริงๆว่าต้องการมันขนาดไหน พอลองปรือตาเพื่อมองอีกครั้ง ผมก็ยังคงพบกับใบหน้าของเทพบุตรในคราบซาตานที่กำลังแผ่บรรยากาศน่าขนลุกออกมา เขาที่กำลังทรมานผมให้ตายในเวลานี้ จนสติเริ่มเลือนหายไป...


"อะ...อะไรน่ะ" ผมมองมือหนาที่ผละออกห่าง จนเพิ่งรับรู้ได้ว่าตัวเองหอบหายใจถี่มากแค่ไหน แต่ก็ไม่ได้มีเวลาคิดอยู่นานเท่าไหร่ เมื่อโลกันตร์คว้าเข้าที่ข้อพับของผมให้กางออก นัยน์ตาเบิกกว้างขึ้นเป็นเท่าตัวทันทีเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถวัดขนาดได้กำลังจ่อเข้าที่ปลายทางเข้า แม่งเอ็ย! เห็นหน้านิ่งๆขนาดนี้ เสือกตั้งเมื่อไหร่วะ!? "คิดจะทำบ้าอะไรน่ะกันตร์!"


ผมร้องลั่นเมื่อรับรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครั้งที่แล้วใช้นิ้วยังเกือบตาย ขืนเข้ามาทั้งอย่างนั้นละก็...ไม่ใช่แค่เกือบหรอก แต่จะตายเลยเหอะ!


"หยุดนะโลกันตร์!" ผมเอ่ยไปทั้งเสียงที่สั่นเครือ ในขณะที่กำลังดันไหล่กว้างของอีกฝ่ายให้พ้นๆ แต่แรงของผมจะทำอะไรได้ เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะไม่ถอยแล้ว ยังเสือกกายเข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัวอีก "อ๊าาา!"


เจ็บ... นั้นเป็นความรู้สึกแรกเมื่อกายหนาเข้ามาเพียงแค่ส่วนหัว มือที่ดันไหล่กว้างแปรเปลี่ยนเป็นจิกเล็บลงไปด้วยความเจ็บปวด ทั้งเจ็บและสับสน ตอนนี้สติทุกอย่างคงกลืนหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่ แต่ก็ยังพอที่จะได้กลิ่นคาวของเลือดและความเหนียวของช่องทาง คงไม่ต้องบอกก็รู้สินะว่ามันคืออะไร ช่องทางของผมกำลังถูกฉีกขาด ฉีกชนิดที่ว่าโคตรเจ็บซะยิ่งกว่าคราวก่อนอีก ตัวผมทำได้เพียงเบิกตากว้างรับความรู้สึกเจ็บนี้เอาไว้ ในขณะที่ดวงตาคมกริบกดมองบนช่องทางด้วยสายตากระหาย  ผมได้แต่เม้นปากแน่น สายตาก็มองอีกฝ่ายอย่างตัดพ้อ แต่โลกันตร์ก็เลือกที่จะเมินเฉย...


"กันตร์ กูเจ็บ..." ผมว่าด้วยน้ำเสียงติดจะแหบ โลกันตร์เพียงแค่ปรายตามองมาก่อนจะเสือกกายเข้ามาจนมิดโดยไม่ให้ตั้งตัว "อ๊า!"


ไม่ไหวแล้ว...ทรมาน


"อย่าทำตัวสำส่อนอีก" ผมหรี่ตาลง หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ไหลลงมาเป็นทางยาวชนิดที่ว่าเหมือนกันน้ำตก เป็นใครก็กลั้นไม่ไหวหรอก ลองมาเป็นผมที่ต้องเจ็บปวดทั่วร่างดูสิ แถมยังต้องมาได้ยินคำพูดแบบนั้นในเวลาอย่างนี้อีก อกมันจุกจนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว!


"ฮึก! อึก ฮือ" เสียงร้องเริ่มดังขึ้น ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจอะไรโลกันตร์อีกแล้ว เพราะยิ่งรับฟัง คนที่เจ็บก็เป็นผมอยู่ดี


"เลิกร้อง" มันว่า ผมเองก็ไม่ใช่ว่าอยากจะร้องสักหน่อย ถึงมันไม่พูดก็พยายามอยู่แล้ว แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมันที่ไหร่ ทำไมตัวผมถึงไม่เคยห้ามน้ำตาได้เลยสักครั้งเดียวเลยนะ


โลกันตร์ยังคงค้างแก่นกายเอาไว้อย่างนั้นและไม่ขยับไปไหน ซึ่งไม่กี่อึดใจเสียงทุ้มก็เอ่ยวาจาที่แสนจะร้ายกาจออกมา พร้อมๆกับใบหน้านิ่งเรียบของคนเอ่ย...


"มึงไม่มีสิทธิ์ที่จะหนีไปจากกู"


"ฮึก!..."


มือหนาเอื้อมมาคว้าปลายนิ้วของผมที่กำลังจิกเล็บลงบนเนื้อของเขาจนผิวกายเกินรอยแดงและมีเลือดไหลซึม โลกันตร์สัมผัสปลายนิ้วนั้น ก่อนที่การกระทำต่อมาของเขาจะทำให้ผมเบิกตากว้าง ยามที่ลิ้นร้อนสัมผัสปลายนิ้วแล้วละเลียชิมมันอย่างไม่เบาแรง ในตอนที่นัยน์ตาสีดำวาวตวัดมองมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมก็สะดุ้งทันที เพียงแต่ในใจกลับเริ่มเต้นแรงยามที่สายตานั้นกำลังมองมาทางผมอย่างหวงแหน


หวงแหนเหรอ...โลกันตร์เนี่ยนะ?


"ต่อให้มึงหนีกูไป"


"..."


"แม้จะต้องตัดขามึง กูก็จะทำ"


"อ๊า! อ๊ะ! ฮึก!" ผมร้องลั่นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับด้วยจังหวะที่รุนแรงตั้งแต่เริ่ม จนห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ริมฝีปากที่ถูกเม้มก็เปลี่ยนมากัดปากตัวเองยามที่ถูกทะลวงไม่ยั้ง จนได้แต่เอ่ยเพียงชื่อของคนๆเดียวซ้ำไปซ้ำมา "กะ กันตร์! อ๊า! จะไปแล้ว!" น่าแปลกที่แม้จะถูกทำร้ายซะขนาดนี้ แต่ร่างกายกลับไม่ต่อต้านความรุนแรงที่อีกฝ่ายมอบให้มา กลับกัน รู้สึกว่าถ้าอีกฝ่ายไม่ทำ คงจะไม่มีวันรู้สึกแบบนี้แน่ๆ


ผมจึกเล็บลงบนไหล่กว้างแน่น ก่อนจะปลดปล่อยออกมาในที่สุด...


"แฮกๆ" เสียงหอบหายใจดังไปทั่วห้องด้วยฝีมือของผม แม้จะเสร็จเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ดวงตาของโลกันตร์กลับยังมีประกายของความกระหายอยู่


พรึ่บ!


"เดี๋ยว! อย่า...!" ผมเอ่ยอย่างตกใจเมื่อถูกดันหลังให้เข้าหาอีกฝ่ายในท่าทางน่าอาย มือก็เริ่มคว้าผ้าปูที่นอนเอามากำแน่นเมื่อแรงจากแก่นกายเริ่มถาโถมลงมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง จำไม่ได้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในท่าทางแบบไหน เพราะพอรู้ตัวอีกทีก็ถูกปล่อยในเสียจนตัวชาไปหมด


วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

เพลิงบทที่ 13

เพลิงบทที่ 13





"ไม่เอา กันตร์! อย่า" ผมหลับตาแน่นเมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวลงมาครอบครองยอดอก ก่อนจะดูดดึงสุดแรง "อะ อ๊ะ! ไม่!"


โลกันตร์คว้าเข้าที่กางเกงนักศึกษาของผมก่อนจะกระชากมันออกไปจนตอนนี้ไม่มีอะไรบดบังร่างกายของผมอีกแล้ว


"อึก! กันตร์" ผมเม้นปากแน่นเมื่อมือหนาแยกขาทั้งสองข้างของผมออก พร้อมๆกับฟันคมที่ลิ้มลองไปตามยอดอกสีชมพูให้เสียวเล่นจนสะดุ้งสุดตัว


โอ้ ไม่นะ...


ผมจิกมือกับผ้าปูที่นอนเมื่อถูกริมฝีปากของร่างสูงฝังร่องรอยความเป็นเจ้าของเอาไว้ และยังไม่ทันจะได้หันไปด่าอะไร มือหนาก็เลื่อนไปกอบกุมแก่นกายของผมทันทีจนต้องเบิกตากว้าง


"อ๊ะ! อึก!" ผมใช้มือปิดปากตัวเองไม่ให้เผลอร้องเสียงแปลกๆออกไปเมื่อมือหนากำลังรูดขึ้นรูดลงที่แก่นกายของตัวเองอย่างแรงและเร็วจนเสียวซ่านไปหมดทั้งตัว โลกันตร์เงยหน้ามองผมที่พยายามกั้นเสียงเอาไว้ และนั้นทำให้ผมปรายตามองเขาอย่างแรงๆที่บังอาจมาแตะตัวของสวงน ร่างสูงเพียงแค่หรี่ตาลงราวกับไม่สนใจ ก่อนจะจ้องไปยังแก่นกายของผมให้หน้าแดงเล่น


เขาจำเป็นต้องจ้องด้วยสายตาแบบนี้ด้วยเหรอ หน้าผมจะละลายเพราะความร้อนแล้วนะเว้ย


ผมกัดฟันแน่นเมื่อโลกันตร์ถือโอกาสกระชากมือจากปากของผมออก และนั้นยิ่งทำให้ต้องหลับตาแน่น เพื่อข่มอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าร้อนจัดเมื่อถูกแตะต้องไปตามส่วนต่างๆ ร่างกายร้อนรุมเรื่อยๆเมื่ออีกฝ่ายปลุกอารมณ์ให้ผมเริ่มทนไม่ไหว


"อยะ อย่า..." ผมร้องขออย่างไม่รู้ตัว หากเป็นในยามปกติผมคงถีบมันไปนานแล้ว แต่ว่าในตอนที่สมองมึนเบลอและกำลังต้องการมาก ยิ่งทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง


พึ่บ!


และในที่สุดผมก็ปลดปล่อยออกไปจนได้


โลกันตร์มองร่างที่เปลื้องของผมด้วยดวงตาฉายแววราวกับนักล่า ผมทำได้เพียงมองมันอย่างอายๆเมื่อเสร็จคามืออีกฝ่าย


เหมือนกำลังถูกคุกคาม...


โลกันตร์หยุดชะงักการกระทำ ผมปรายตามองอีกฝ่ายด้วยแววตาที่นองไปด้วยน้ำตา อกยกขึ้นสูงและลดต่ำลงเนื่องจากรู้สึกเหนื่อย และเมื่อเงยหน้ามองร่างสูงผ่านม่านตา ผมก็พบกับ...มัจจุราช


โลกันตร์มองผมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง หากแต่แววตาของอีกฝ่ายกลับไม่นิ่งตามหน้าตัวเอง สองมือของเขาแยกปลายขาผมให้กว้าง และเพราะหน้าไม่ด้านพอเลยคิดจะปกปิดส่วนน่าอายเอาไว้ แต่ไม่ทันได้ทำอะไร นิ้วเรียวยาวของโลกันตร์ก็สอดเข้าไปในช่องทางที่ผมไม่เคยแตะต้อง ก่อนที่อีกฝ่ายจะแทรกนิ้วอีกสองเข้าไปแล้วกระทุ้งเข้ามาแรงๆจนผมไม่สามารถกลั้นเสียงเอาไว้ได้


"อ๊า! อ๊ะ! กันตร์! มัน...ฮื่อ" ผมคว้าเข้าที่ท่อนแขนแกร่งเอาไว้ ก่อนจะจิกเล็บลงบนผิวของอีกฝ่าย ใบหน้าแดงก่ำด้วยอารมณ์ที่ห้ามไม่อยู่ ตัวของผมก็โยกไปตามแรงที่ถูกอัดเข้ามาด้วยความเจ็บ


ใครสอนให้มันใส่เข้ามาโดยที่ไม่ต้องเอาเครื่องมือช่วยวะ!


อึก!


ทรมาน


ผมเงยหน้ามองโลกันตร์ด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบของน้ำตา ดวงตาของผมก็สั่นระริกด้วยความทรมาน ร่างสูงกดตาลงต่ำ ก่อนจะหยุดการกระทำ คล้ายว่าเขารู้ว่าตอนนี้ผมต้องการอะไร แต่เหมือนอีกฝ่ายกำลังรอให้ผมร้องขออยู่


อึก...


"อ้า!" ผมร้องออกมาอีกครั้งเมื่อนิ้วของเขาเริ่มขยับหมุนวนภายในตัว คล้ายกำลังทำให้ผมกลั้นใจพูดออกมา ไม่อย่างนั้นก็จะต้องทรมานแบบนี้ต่อไป


โรคจิต...


ผมมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ แววตาของโลกันตร์มีความสนุกเต็มประดาจนรู้สึกหมั่นไส้ ผมเสมองไปทางอื่นก่อนจะพึมพำเบาๆ


"ไร้น้ำยา"


พึ่บ! พึ่บ!


"อ๊า! อ...อะ! กะ โลกันตร์!" ผมตัวโยกทันทีเมื่ออีกฝ่ายถอนนิ้วออกจนสุดแล้วกระแทกทั้งสามเข้ามาใหม่ ผมหันไปมองใบหน้าที่ฉายแววไม่พอใจของเขาก่อนจะเบะปากนิดหน่อย


ใจร้ายใจดำ...


จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมโลกันตร์ ได้...


ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะดันตัวให้มือคว้าเข้าที่คอร่างสูงก่อนจะโอบเอาไว้ โลกันตร์มองการกระทำของผมอย่างแปลกใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะโน้มหน้าลงมาตามแรงที่ผมกด


ผมมองโลกันตร์ด้วยการช้อนตาขึ้นอย่างออดอ้อน อีกฝ่ายชะงักไปกับปฏิกิริยาของผม ไม่แปลก เพราะผมไม่เคยแสดงสีหน้าออดอ้อนแบบนี้กับใครมาก่อน และมันจะเป็นหนูทดลองคนแรกที่ผมจะใช้ไม้นี้ ถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้? ก็ไม่มีอะไรมาก ไหนๆความรู้สึกของผมก็ถูกเปิดโปงแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้หรอก


ผมกรีดยิ้มสวยออกมาหลังจากที่ช่วงนี้ไม่ได้ทำมานาน แววตาฉายแววยั่วยวนก่อนที่จะดันใบหน้าของโลกันตร์ให้เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แล้วเอื้อมไปกระซิบข้างหูของมันด้วยน้ำเสียงกวนประสาท หากแต่ก็แอบยั่วมันเหมือนกัน...


"นะ...กันตร์"


สิ้นสุดเสียงคล้ายกับร้องขอ โลกันตร์ก็กระชากมือที่โอบรอบคอเขาออกแล้วยกขาทั้งสองของผมขึ้น ดวงตาของเขาฉายแววเอาจริงจนผมเผลอเบิกตากว้างยามที่แก่นกายใหญ่เกินคนทั่วไปกำลังสอดแทรกเข้ามาทางช่องทางด้านหลัง...โดยไม่ป้องกัน!


"โลกันตร์! อ๊า!" ผมร้องลั่นเมื่ออีกฝ่ายไม่รอให้ช่องทางคุ้นชินก่อน แต่ดันเสือกกระแทกเข้ามาจนสุดไม่เห็นใจคนที่โดนอย่างผมเลย จนได้แต่เบะหน้าด้วยความเจ็บปวด "อ๊า! อ๊ะ! อ้า! อะ อยะ อย่าเพิ่ง"


พึ่บ พึ่บ พึ่บ


ผมเบิกตากว้างเมื่อมันกระแทกแก่นกายเข้ามาสุดแรงจนช่องทางแสบร้อนไปหมด น้ำตาหยดใสๆก็ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่ออีกฝ่ายกำลังเคลื่อนกายเข้ามาไม่หยุดจนร่างทั้งร่างสั่นไปตามแรงกระแทก


"อ๊า กันตร์! มันเจ็บ!" ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปกอดรัดแผ่นหลังของอีกฝ่าย เริ่มรู้สึกถึงของเหลวที่ไหลออกมาจนต้องหลับตาแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดจนต้องจิกแผ่นหลังอีกฝ่ายอย่างลืมตัว


แค่จะแกล้งมันเฉยๆเอง ไหงกลายเป็นว่าผมต้องโดนกระแทกเอาแบบนี้ล่ะเนี่ย!?


โลกันตร์บดเบียดแก่นกายขนาดใหญ่เข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก ใบหน้าของอีกฝ่ายยังคงนิ่งเรียบ หากแต่ประกายในดวงตากลับฉายแววปราถนาอย่างปิดไม่มิด ยิ่งโดนโถมกายเข้าใส่มากเท่าไหร่ ร่างกายของผมก็ยิ่งสั่นสะท้านมากเท่านั้น หยาดน้ำตาไหลลงมาด้วยความเจ็บ หากแต่ก็รู้สึกเสียวปะปนกันไป


"อ๊า!" ผมร้องลั่นเมื่อแก่นกายกระแทกเข้ามาอย่างแรงตรงจุดอ่อนไหว นั้นยิ่งทำให้ผมกัดริมฝีปากแน่นด้วยความเสียวซ่าน ซึ่งร่างสูงไม่คิดจะรอช้าหรืออย่างไร เพราะเจ้าตัวเล่นขยับแก่นกายเข้าออกตรงช่องทางด้านหลังอย่างรุนแรงจนผมทั้งเจ็บทั้งเสียวในคราเดียว


ครั้งแรก...ที่โครตไร้ความปราณี


ผมปลดปล่อยออกมาก่อนที่แก่นกายขนาดใหญ่ของอีกฝ่ายจะเข้ามาจนสุด หลังจากนั้นไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็ถูกปลดปล่อยออกมาภายในช่องทางอย่างไม่บอกกล่าวกันก่อน


รู้สึกแสบช่วงล่างจนได้แต่กรีดเล็บลงบนหลังของอีกฝ่าย หากแต่ก็ไม่ได้บรรเทาความทรมานได้เลย


ผมหอบโกยอากาศเข้าปอด ตาปรือๆด้วยความเหนื่อยล้ากับการกระทำที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเดียว


ผมตวัดตาผมโลกันตร์อย่างโกรธหน่อยๆก่อนจะรีบถดถอยออกจากร่างสูงทันที แต่ก่อนที่ผมจะหนีเข้าห้องน้ำไป มือหนาก็รีบคว้าเข้าที่แขนแล้วกระชากจนร่างของผมต้องลงไปนอนคว่ำบนเตียงทันที


"อะ!" ผมเบิกตากว้างเมื่อสะโพกถูกยกขึ้นสูง ก่อนจะปรายตามองโลกันตร์คล้ายๆบอกว่าผมไม่ไหวแล้ว นี่เพิ่งครั้งแรก ขอพักเถอะ แต่ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นเพียงแววตาแสนกระหายที่กดตามองร่างกายของผมเท่านั้น ซึ่งนั้นทำให้ผมรู้สึกขนลุกขนชันไปทั้งตัว


มันจำเป็นต้องมองผมเหมือนจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัวแบบนี้ไหม?


"กันตร์" ผมเรียกเขาเสียงเบา โลกันตร์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมด้วยอารมณ์แห่งความต้องการ แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว เข้าใจไหมว่ามันทำผมหนักขนาดนั้น เล่นกระแทกเอาขนาดนี้ใครไม่ตายบ้างวะ แต่ก่อนที่ผมจะร้องขอเขา คำพูดไร้ความปราณีของอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้น เล่นเอาไม่อยากขึ้นเตียงกับมันอีกครั้งเลยทีเดียว